วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันเหงา




ในวันเหงา
เพียงรอยยิ้มบางเบา ก็อบอุ่น
สายตาที่เธอมองผ่าน อ่อนละมุน
ความเศร้าก็สาบสูญในพริบตา
เมื่อจมอยู่กับความอ้างว้าง
บนเส้นทางที่เหว่หว้า
เพียงคำปลอบไม่กี่ถ้อยเรียงร้อยมา
ใจที่ล้า ไร้เรี่ยวแรง ก็แกร่งพลัน


วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

25 สิ่งที่ผู้ชาย "อิจฉา" เรา ??!!



25 สิ่งที่ผู้ชายอิจฉาเรา ?

สาว ๆ มักจะชอบบ่นกันอยู่เรื่อย ๆ ว่า "เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก" มันก็จริงอยู่ที่บางทีเราก็รู้สึกอิจฉาผู้ชายที่เขาแข็งแรงกว่า ทำอะไรบางอย่างได้ดีกว่า จะเจ้าชู้หยอดสาวไปทั่วก็กลายเป็นหนุ่มเสน่ห์แรง ในขณะที่เราทำบ้างจะกลายเป็น "ยัยนี่กระซู่กูปรีโคไพร" แต่เมื่อเราได้ไปคุยกับชายหนุ่มมากหน้าหลายตามาก็พบว่า พวกเขาก็มีเรื่องที่อิจฉาผู้หญิงอย่างเราอยู่เหมือนกัน และเรื่องพวกนี้ก็ทำให้เขาเฝ้ามองผู้หญิงด้วยแววตามไฟลุกท่วมเป็นชาวไซย่าในการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอลแซดทุกครั้ง

1.ดริ๊งค์ฟรีไม่น่าเกลียด แค่คุณยิ้มเอียงอาย เขิน ๆ พอน่ารักแล้วก็โปรยเสน่ห์ใส่เขานิดหน่อย ผู้หญิงก็สามารถดึงดูดความสนใจหนุ่มที่อยู่หน้าบาร์ตรงนั้นให้พร้อมควักกระเป๋าเลี้ยงคุณสักดริ้งค์ได้โดยที่คุณไม่ต้องเอ่ยปาก แค่ปรายตามมองผู้ชายส่วนใหญ่เขาก็เข้าใจแล้วว่าต้องทำยังไง การเลี้ยงดริ๊งค์ยังถือเป็นการทลายกำแพงที่จะเข้าไปพูดคุยทำความรู้จักกับเธอได้โดยที่ไม่มีผู้ชายคนยไหนคิดมากที่จะใช้วิธีนี้ ในณะที่คงไม่มีผู้หญิงคนไหนจะสั่งดริ๊งค์มาเลี้ยงเขาแบบนี้บาง
2. ไม่ต้องเมาก็เม้าท์ได้ ว่าด้วยด้วยเรื่อง ของแอลกอฮอล์ย้อมใจ ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องกระดกเหล้ากันเป็นขวดเพื่อที่จะคุยปัญหาชีวิตหรือเรื่องที่มีความหมายกับเพื่อนสาว ๆ  แต่สำหรับผู้ชายเราต้องกระดกเตอกีล่าสักแปดช็อต เบียร์อีกสักเหยือก พวกเขาถึงจะเริ่มฉากสนทนาที่จะพรรณนาถึงชีวิตว่าตอนนี้มันเฮงซย หรือถูกหญิงทิ้งมันเฮิร์ทแค่ไหน หลังจากกรอกวิสกี้ลงไปอีกสองแก้วพวกเขาก็จะเริ่มกอดคอเพื่อนแล้วก็พล่ามไปเรื่อย ๆว่าเรารักเพื่อนนะ ในขณะที่สาว ๆ สามารถเล่าเรื่องอะไรให้เพื่อนฟังก็ได้ทุกเรื่องทุกเวลา
3. "ช่วยหน่อยสิค่ะ"  ไม่ว่าเป็นการถามทางในที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือวิธีโหลดเพลงลงไอพอต ผู้หญิงเราไม่เพียงแค่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าได้ง่ายกว่าผู้ชาย แต่พวกเราสาว ๆ ยังได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มใจพร้อม ๆ กับรอยยิ้มที่เป็นมิตรด้วย ผู้ชายส่วนมากเขามักจะไม่มีทักษะหรือการวางตัวในแบบที่จะขอความช่วยเหลือจากใครได้ง่าย ๆ มันคงแปลก ๆ ถ้ารถของเขายางแตกอยู่ริมถนน แล้วก็เปลี่ยนเองไม่เป็น ต้องรอคนผ่านไปผ่านมา แล้วพูดขอความช่วยเหลือด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน
4. ถ้าแมนจริง ต้องกล้าสิ  เรื่องสุรายาเมาก็เป็นสิ่งที่ผู้ชายมักจะต้องเอามาใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาแมนกันจริงมั้ย คออ่อนมั้ย ในขณะที่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องดื่มเบียร์แก้วยักษ์แล้วบอกว่า ไม่เมาเพื่อพิสูจน์ความหญิงด้วยเงื่อนไขไร้สาระแบบนี้ในกลุ่มเพื่อน เพราะคุณคงไม่พูดกับเพื่อนว่า " ถ้าเธอเป็นหญิงจริงจะต้องดื่มขวดนี้ให้หมดรวดเดียว ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องถูกจับแก้ผ้า " หนุ่ม ๆ บางคนเขาบอกว่า อิจฉาผู้หญิงตรงนี้หล่ะ
5. มีความสุขกับอะไรง่าย ๆ 
6. ทำอะไรหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน
7. ปัญหาจินตนาการ
8. เปลื่อนเสื้อผ้า กระเป๋า เป็นว่าเล่น
9. อาหารหลังเลิกกัน
10. ชุดชั้นในสุดเซ็กซี่
11. แต่งก็ได้หย่าก็ได้
12. ที่รัก... เธอคืเจ้าแม่สปา
13. เซ็กซ์ทอยเพียบ
14. ขนาดสำคัญเสมอ
15. ปกปิดปัญหาสิว
16. ดาราเจ้าน้ำตา
17. สองแก้วเป็นอย่างต่ำ
18. ปรับฮอร์โมนให้ตัวเองได้
19. ยักย้ายส่ายสะโพก
20. นาฬิกาชีวิตสั้นกว่า  อายุของผู้ชายเฉลี่แล้วสั้นกว่าผู้หญิงในทุกประเทศทั่วโลกเสมอพวกเรามีโอกาสสนุกและแฮปปี้กับชีวิตบนโลกใบนี้ได้นานกว่าเขา
21. กอดจูบก็พอนะที่รัก ???
22. อคติทางเพศ
23 เธอมีอภิสิทธิ์ตลอด
24 เซ็กซ์โฟน
25. เซนส์เรื่องแฟชั่น

เลิกไม่ได้ ฉันเลิกกับเขาไม่ได้



เลิกไม่ได้ ฉันเลิกกับเขาไม่ได้ และก็รู้ว่า มันทรมาน

กี่วันกี่คืนแล้วที่คุณต้องนอนร้องไห้คนเดียว น้อยใจในตัวคนรักเหลือเกิน บางครั้งคุณก็ต้องถามตัวเองว่า " นี่ฉันจะมีคนรักไปทำไม ถ้ามันคบกันแล้วทรมานอย่างนี้ " เจอหน้าเขาแต่ละทีเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย กับแค่บอกเขาว่าเย็นนี้คุณจะไปกินข้าวกับเพื่อนสนิท เขาก็ไม่เข้าใจ หาว่าคุณไม่สนใจเขา ก็เลยต้องจบกันด้วยการทะเลากัน แล้วเขาก็เริ่มขุด ๆๆๆๆ ขุดทุกอย่างออกมว่าคุณ น้ำตาก็เริ่มไหล นี่หรือคนที่รักฉัน และแทนที่เขาจะมาปลอบ ขอโทษคุณ เปล่าเลย เขากลับชี้หน้าบอกคุณว่า "จะร้องไปทำไม" และเกือบทุกครั้งที่มีเรื่องกัน โดยที่คุณไม่ได้เป็นฝ่ายงี่เง่า พอคุณร้องไห้แล้วจะเดินหนีไประงับอารมณ์ กลับมีเสียงเขาไล่หลังมาว่า "ถ้าเดินออกไป เราก็เลิกกันเลยแล้วกัน" ทั้ง ๆ ที่คุณน่าจะเป็นฝ่ายบอกเลิกไม่ใช่หรือ สิ่งที่คุณทำเป็นสิ่งสุดท้าย คือ เดินน้ำตาอาบหน้ากลับมาหาเขา แล้วบอกว่า "ขอโทษเราอย่าเลิกกันเลยนะ"
     เหตุการณ์แบบนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดกับคุณที่คบกับเขามาเพียงสามเดือน ผู้หญิงบางคนคบแฟนมาเกือบสิบปี ก็ยังต้องมานั่งน้อยใจเสียใจ ร้องไห้ ทรมาน และอยากเลิกแต่เลิกไม่ได้แบบนี้ด้วยเหมือนกัน
อะไรหล่ะที่ทำให้คุณเลิกกับเขาไม่ได้
ถึงตอนนี้สิ่งเดียวที่เราอยากบอกคุณคือ ขอให้หายใจช้าลง อยู่นิ่ง ๆ สัก 5 นาที ในชีวิตเกิดมาถ้ายังไม่เคยใจนิ่ง ครั้งนี้ขอให้ตั้งไว้นิ่งที่สุดได้มัย เพราะทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวคุณเองทั้งนั้นแล้วมาตอบตัวเองว่า

1. คุณรักเขาที่ตรงไหน
ตำเดือน : กรุณาซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ถ้าหาคำตอบไม่ได้ ก็เขียนว่า ไม่รู้

2. เขารักคุณที่ตรงไหน
คำเตือน : ถ้าไม่แน่ใจก็ถามเขาตรง ๆ มอบตาเขาแบบให้ทะลุถึงหัวใจ และบอกว่า "ฉันขอความจริงจากใจเธอเถอะนะ ช่วยบอกฉันหน่อยเถอะว่ารักฉันที่ตรงไหน? ถ้าเขาตอบไม่ได้ เราตอบคุณแทนได้เลยว่า เขาไม่รู้ซึ่งก็อาจแปลได้ว่า เขาไม่ได้รักคุณ

3. คุณต้องการอะไรในชีวิต
คำเตือน : ตอบตัวเองได้ทุกอย่าง ตอบจากใจ ถึงแม้เหตุผลจะเป็น "อยากได้ความสบาย" "อยากให้รู้ว่าชีวิตมีใคร จะได้ไม่เหงา" หรือจะเป็น "อยากให้ตัวเราและคนที่เรารักมีความสุขใจ" อะไรก็ได้

4. เลือกอะไรระหว่าง
อยู่คนเดืยวและรอคนที่รักเราหมดหัวใจ จริง ๆ กับ คบๆ ไป เขาอาจดีขึ้น แต่อยู่ด้วยแล้วเราไม่มีความสุข
คำเตือน "อย่าหลอกตัวเอง"

5. ตั้งแต่คบกันมา เขาทำอะไรให้คุณรู้สึกว่า
เขาได้เสียสละ และพยายามจะทำให้คุณมีความสุขบ้าง?
คำเตือน :  เสียสละ แปลว่า ยอมเสียสละอะไรบางอย่างด้วยใจรักและไม่เป็นทุกข์
                 พยายามแปลว่า พยายามทำในสิ่งที่อาจไม่เคยทำหรือยากมาก ๆ


6. คุณมีความสุขกับตัวเองได้ โดยไม่ต้องมีใครไหม?
คำเตือน : มีความสุขอันนี้หมายถึง หัวใจสุข กำลังดี ไม่เหวี่ยง ไม่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ

7. คุณดูแลตัวเองได้ดีมั้ย ?
คำเตือน : เราหมายถึงดูแลทั้งทางร่างกายและจิตใจนะ

8. คุณติดกับความรู้สึกว่า
"ฉันมีแฟน" มากกว่า "ฉันอยากให้ตัวเองมีความสุข" หรือเปล่า

9.มีเพื่อนสนิท พ่อแม่ น้อง ญาติ คนไหนบ้าง ที่ชอบแฟนคุณ ?
คำเตือน : เราขอให้เอาแต่คนที่เขารักคุณจริง ๆ เท่านั้น เพื่อนที่ไม่ได้รักคุณจริง ไม่นับนะ

10. สามารถนึกภาพตัวเองเป็นผู้หญิงมีความสุข โดยไม่ต้องมีผู้ชายคนนี้ได้ไหม?

ไม่ต้องตกใจว่า .... ถ้าถามตัวเองมาทั้งหมด 10 ข้อนี้แล้ว คุณเกิดอาการ อึ้ง นี่เราไม่เคยคิดมาก่อนเลย หลอกตัวเอง พยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองแต่ลึก ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ หรือแค่คำถามที่สองว่า เขารักคุณที่ตรงไหน ทำให้คุณน้ำตาไหลพรากขึ้นมาเราขอบอกว่า

นั่นหล่ะ! คือเหตุผลที่คุณเลิกกับเขาไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องตกใจว่าเนื้อแท้ของเหตุผลส่วนใหญ๋จะเป็นเพราะคุณ

1. ไม่มั่นใจว่าตัวเองมีอะไรเจ๋งอีกเยอะ ที่ไม่เห็นต้องง้อใคร
2. หลอกตัวเองเพื่อให้รู้สึกดี เพราะรูสึกไปเองว่า อยู่คนเดียวยากกว่าการมีแฟน
3. พอรักใครปุ๊บ ก็ไม่เข้าใจว่าจะเลิกรักได้ยังไงเพื่ออะไร แล้วดีกว่าจริงหรือ
4. มันยากเหลือเกิน และว้าเหว่าเหลือเกินที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขด้วยตัวเอง
5. อยากเป็นผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า มีคนรักและมีคนดูแล



กลเม็ดของจอมบงการ

กลเม็ดของจอมบงการ มีอย่างน้อยสิบกว่าวิธีที่จอมบงกาใช้ชักใยคนอื่นให้ทำตามต้องการ ระวังวิธีเหล่านี้ให้ดี
1. ปฎิเสธ เมื่อเขาไม่ยอมรับว่าได้ทำผิดพลาดเขากำลังเล่นบทผู้บริสุทธิ์ เขาอยากให้คุณรู้สึกว่าคำกล่าวหาของคุณไม่มีหลักฐานหรือไม่ยุติธรรม
2. ทำไม่รู้ไม่ชี้ คล้ายกลับการปฏิเสธ เขาจะ "แกล้งโง่" ไม่ใส่ใจคำเตือน คำขอหรือความต้องการของคุณ หรออะไรก็ตามที่อาจทำให้เขาหันเหจากสิ่งที่เขาตั้งใจทำ
3. ให้เหตุผล จอมบงการมักจะมีเหตุผลอธิบายพฤติกรรมตัวเองและเอาตัวรอดได้เสมอ ถ้าเขาอธิบายตัวเองได้ เขาก็จะทำตามเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
4. เบี่ยงเบนประเด็น จอมบงการจะถนัดนักในการเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเมื่อคุณต่อว่าเขา พวกเขาใช้การเบี่ยนเบนความสนใจนี้เพื่อไม่ให้คนอื่นจับตามองพฤติกรรมของเขา
5. ลดทอนความสำคัญ  จอม่บงการมักจะยืนยันว่าพฤติกรรมเอาเปรียบของเขาไม่ได้อันตรายหรือขาดความรับผิดชอบเหมือนกับคุณอ้าง พวกเขามักจะทำเรื่องใหญ๋ให้ดูเล็กน้อยเสมอ
6. โกหก แน่นอนว่านี่เป็นวิธีบงการที่ใช้กันมานาน ซึ่งเป็นเหมอนเสน่ห์อย่างหนึ่งถ้าคุณโกหกเก่ง
7. กระตุ้นความรู้สึกผิด จอมบงการทุกคนจะบอกว่าคุณไม่ใส่ใจมากพอ หรือเห็นแก่ตัวเกินไป แล้วคุณก็จะเริ่มรู้สึกแย่ทันที โหกร้าย แต่เป็นวิธีบงการที่ง่ายที่สุด
8. กล่าวโทษ การเสียดสี และดูถูก จะเพิ่มความกลัวและไม่มั่นใจในตัวเอง อย่าถูกใครจูงจมูกง่าย ๆ ให้คุณรู้สึกกลัวโดยใช่เหตุ
9. เล่นบทเหยื่อ ลักษณะของการบงการเกิดขึ้นได้จากการที่คนส่วนใหญ่ทนไม่ได้ที่เห็นคนอื่นทุกข์ทรมาน การทำให้คนอื่นเชื่อว่าคุณกำลังเดือดร้อน จะทำให้เขาพยายามช่วยคุณเต็มที่
10. เล่นบทคนรับใช้ การแสร้งว่าทำงานหนักแทนคนอื่น คือวิธีที่จอมบงการใช้ปกปิดแรงทะเยอทะยานของตนเองที่จะครอบงำคุณ
11. ล่อล่วง จอมบงการจะหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่น ชมเชย ยกยอให้คนอื่นยอมมอบความไว้ใจและซื่อสัตย์
12. โทษคนอื่น จอมบงการไม่เพียงจะถนักในการหาแพะรับบาปเท่านั้น แต่ยังเชี่ยวชาญในการหาแพะแบบแนบเนียนที่สุดท้วย

จะนั่งจะยืนดูดีได้ทุกเวลาอยากเป็นมั้ยล่ะ?

ยืนให้สวยแล้วได้อะไร?
ถ้าคุณรู้จักยืนให้ดี คุณจะดูผอมลง 5 กิโลกรัมโดยที่ไม่ต้องออกกำลังให้เหนื่อยเลย เพราะยืดหลังเมื่อไหร่หน้าท้องที่เคยย้วยจะยกขึ้น สะโพกเล็กเพราะไม่มีห่วงยางไปกอง บางคนที่ยืนแล้วหลังค่อมอาจจะเพราะรู้สึกสบาย แต่ไม่ใช่ทำที่ทำให้รู้สึกดีไปได้ตลอดคุณสบายพักเดียวจากนั้นก็จะเมื่อยยาว เพราะถ้าคุณดูทีวีหรือเล่นอินเตอร์เนตเพลินจนไม่ได้เปลี่ยนท่า แล้วถ้าติดจนเป็นนิสัยอาจทำให้เป็นโรคกระดูสันหลังคด (Scoliosis) เราเคยได้ยินมาว่าสาวบางคนผ่านการคัดเลือกเป็นแอร์โฮสเตสรอบสุดท้าย แต่ต้องมาพลาดเพราะตรวจเจอว่าเธอกระดูกสันหลังคดนี่เอง
แล้วเราจะฝึกตัวเองให้บุคลิกดียังไง?
อะไรที่เราทำมานาน เวลาที่จะเปลี่ยนมันก็จะยาก กล้ามเนื้อดูฝีดไปทุกส่วน ลองออกกำลังที่เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ เช่น ยกเวทหรือว่ายน้ำ โดยเฉพาะคนที่เล่นพีลาทีสจะยิ่งดีเพราะเน้นกล้ามเนื้อหลักบริเวณหน้าท้องให้แข็งแรง จะช่วยลดการปวดหลังได้ คุณจะไม่ค่อยเห็นักกีฬาปวดเมื่อยเท่าไหร่ นอกจากพวกที่ติดทีวีหรือนั่งโต๊ะนาน ๆ มีโอกาสมากกว่า
1. ยืนรอรถนาน  ๆ
ลงน้ำหนักที่เท้า 2 ข้างเท่ากัน อย่ายืนเอียง และอย่ากลัวว่าเราจะยืนหลังค่อมจนกลายเป็นแอ่นมากเกินไป เพราะการยืนรอรถบางครั้งเราต้องยืนนาน ถ้ายืนผิดอาจทำให้น้ำหนักไปทิ้งอยู่ที่กระดูกสันหลังอาจจะทำให้ปวดหลังได้ นอกจากนี้ถ้าเราได้ถูกแล้ว ร่างกายจะเผาผลาญได้มากขึ้นด้วยเพราะเรายึดตัวเองไว้ด้วยน้ำหนักทั้งตัวได้
2. นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ด้วยมาดสาวทำงาน
บางทีที่เราเล่นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คในร้านกาแฟหรือที่อื่น ๆ เราจะเพลินจนลืมนึกไปว่านั่งหลังค่อมอยู่นาน ๆ แล้ว ทางแก้ง่าย ๆ เลยก็คือหากระดูกก้นกบของตัวเอง ซึ่งอยู่ระหว่างกระดูกเชิงกรานและกระดูกขา พอรู้แล้วว่าตำแหน่งหลังจะตั้งตรงอัตโนมัติ เพราะถ้าคุณนั่งลึกจนขา หลังจะค่อมทันที ให้น้ำหนักลงที่ก้นกบ คุณจะไม่รู้สึกปวดหลังเหมือนเดิม

3.โดดเด่นในงานปาร์ตี้
คุณคงหนีรองเท้าส้นสูงไม่พ้นสำหรับงานหรู ๆ จำไว้ว่าถ้ายิ่งยืนไม่ตรงเท่าไหร่ก็จะยิ่งเมื่อยเร็วเท่านั้น ถึงคุณจะไส่ส้นสูงแค่ไหน ให้ยืนตรงเมหือนยึดซี่โครงขึ้น (แต่ไม่ใช่แอ่นหลัง) วีธีนี้จะช่วยให้หคุณพยุงน้ำหนักของตัวเองเอาไว้ให้สมดุลทั้งตัว เท้าควรชิดกันส ซึ่งคุณสามารถพักขาได้โดยที่สะโพกไม่โยกตาม
4. ดินเดนอร์แรกกับหนุ่มสุดปลื้ม
ใช้หลักเดียวกับการนั่งบนกระดูกก้นกบ ถึงจะเปลี่ยนเป็นนั่งไขว่ห้างก็ตาม ยึดหลังตรงช่วยให้หน้าอกดูผาย หน้าท้องยุบ เอวคอดขึ้นเพราะดินเนอร์ครั้งแรกคุณอาจจะเขินม้วนบิดไปมา เอาแขนและศอกเท้าโต๊ะ อาจทำให้หนุ่มคนนั้นเห็นร่องอกคุณได้ จากที่ชอบด้วยใจจะเปลี่ยนเป็นอาการหื่นกามแทนซะ และอีกอย่างเลยเวลาที่คุณหลังค่อมหน้าจะเหี่ยวลงอัตโนมัติ ลองยืดตัวดูสิหน้าตึงขึ้นมาเลยใช่ไหมหล่ะ
5. นั่งพับเพียบต่อหน้าผู้ใหญ่
เวลาที่นั่งพับเพียบให้เอาสะดือเป็นจุดศูนย์กลางเหนือสะดือขึ้นมาจนถึงศรีษะเป็นเส้นด้ายที่ถูกยกขึ้น ลังจะยึดตรง ถึงนั่งนานก็จะไม่เกิดอาการปวดหลัง ส่วนมือไม่จำเป็นต้องประสานกันตลอดเวลาก็ได้ ให้ตัวเองดูเป็นธรรมชาติที่สุด

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ผู้หญิงควรรู้

สดใสได้เสมอ แม้เป็นวันนั้นของเดือนเมื่อใกล้ช่วงมีประจำเดือน ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดหัว ปวดท้อง ครั่นเนื้อครั่นตัว อารมฌ์แปรปราวน มีสิวขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่ม เพราะก่อนมีประจำเดือน ร่างกายจะปรับระดับของฮอร์โมนเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นเราจึงมีวิธีรับมือกับอาการดังกล่าวมาฝากกัน
1. รับประทานอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ ลดน้ำตาล เกลือ คาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของอาการปวดท้องและอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่จะเกิดช่วงมีประจำเดือน งดอาหารที่รบกวนการทำงานของลำไส้ เช่น น้ำเย็น อาหารรสจัดทั้งหลาย รวมถึงอาหารที่ยอยยาก

2. ใช้สมุนไพรช่วย เช่น ตังกุย ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนที่ใช้กันแพร่หลาย สารสกัดในตังกุยเป็นตัวช่วยในการต้านการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ลดอาการปวดเมื่อยตามตัว รวมทั้งสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

3. ออกกำลังกาย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 20-30 นาที นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรง ผลดีที่ได้รับอีกอย่างคือ อาการไม่สบายต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือนจะลดลง หรือแทบไม่มีเลย โดยเฉพาะถ้าออกกำลังกายเป็นประจำ
4.เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยการดื่มชาสมุนไพรร้อน ๆ หรือน้ำอุ่น ๆ ขณะเดียวกันก็ใช้ผ้าอบร้อนที่เพียงพอจะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ดีทีเดียว

5. พักผ่อนให้เพียงพอ การจัดระบบการนอนที่ดีช่วยได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ และการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ดีทีเดียว



ลองนำวิธีต่อไปนี้ไปทำตามกันดู หากรู้จักเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ ต่อให้เป็นวันไหน ๆ ของเดือน คุณก็ยังคงดูสดใสได้เสมอนะคะ

ยังไม่ทันแก่ ก็ปวดหลังซะแล้ว

ยังไม่ทันแก่...ก็ปวดหลังซะแล้ว


หลังทำงานอย่างไร หลังของเราทุกคนจะมีกระดูกท่อนเล็ก ๆ 24 ท่อนเรียงต่อักนเป็นกระดูกยาว ๆ ที่งอได้เหมือนงู เรียกว่า กระดูกสันหลัง เชื่อมต่อระวห่าง กระดูกเชิงกราน บริเวณก้น กับกระโหลกศรีษะ ทำให้เมื่อกระดูกส่วนในส่วนหนึ่งเคลื่อนไหวก็จะมีผลต่อกันทั้งแถบ เช่น แค่ก้มหัว กระดูกสันหลังส่วนบนก็ขยับตามไปเช่นกัน

เราปวดหลังแบบไหน

1.ปวดทั้งหลัง ตั้งแต่ต้นคอถึงหลังส่วนล่วงบางทีอาจปวดไหล่ และแขนด้วย
เกิดจาก: กล้ามเนื้ออักเสบ เพราะใช้งานหนัก หรือเคลื่อนไหวผิดท่า หรือฝืนมากไป ส่วนใหญ๋มักไม่เรื้อรัง ขึ้นอยู่กับว่าเราทำอิริยาบทนั้นนานแค่ไหน เช่น เอื้อมหยิบของที่อยู่ไกล ๆ หรือออกกำลังกายหักโหม อาการปวดควรจะหายไป หลังจากกล้ามเนื้อได้กลับสู่สภาพปกติ 3-4 วัน ถ้าไม่หาย ควรรีบปรึกษาหมอ เพราะอาการอาจกลายเป็นเรื้อรัง หรือเป็นที่เส้นประสาทได้

2. ปวดคอและท้ายทอย รู้สึกเมื่อยล้าหรือตึง ๆ ที่ต้นคอ หรือมากขึงขั้นปวดหัวในบางที่
เกิดจาก : การไม่ได้ผ่อนคลายของช่วงต้นคอ อาจเป็นเพราะการนั่งมองจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรือนั่งทำงานโดยไม่ได้เปลี่ยนท่านั่งเลย ก้มหน้านานไปหรือเงยมากไป นอกจานี้การใช้สายตานาน ๆ กับความเครียดก็เป็นสาเหตุเช่นกัน แค่ลองพยายามผ่อนคลาย โดยการเปลี่ยนท่านั่ง บริหารต้นคอโดยหมุนหัวช้า ๆ พักสายตาเป็นระยะเท่านั้น และให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ บนโต๊ะทำงานอยู่สในตำแหน่งต่อไปนี้
- จอคอมพิวเตอร์ อยู่ห่างจากตายอย่างน้อย 1 ฟุต หรือลองนั่งหลังตรง แล้วเอื้อมมือไปข้างหน้า ถ้ายังแตะไม่โดนจอ นั่นหล่ะโอเค
- คีย์บอร์ด วางในตำแหน่งที่เวลาพิมพ์ ข้อมือจะต้องไม่งอขึ้น
- เม้าส์ ให้อยู่ใกล้มือให้มากที่สุด ไม่ต้องเอื้อมหรือเกร็งแขนและการมีแผ่นรองเม้าท์ที่มีหมอนรองข้อมือช่วยได้มาก

3. ปวดหลังช่วงล่าง หรือบริเวณเอวลงไปจนถึงเชิงกราน
เกิดจาก : การปวดหลังบริเวณนี้มักเกิดจากเคยบาดเจ็บ หรือเคล็ดขัดยอกมาก่อน เช่น เอื้อมหยิบของสุดแขนจนเส้นพลิก หรือท่าซิทอับที่ผิด ๆ อาจลองปรึกษาหมอเพื่อรักษา นอกจากนี้ช่วงก่อนมีประจำเดือน ก็อาจทำให้สาว ๆ ปวดหลังบริเวณนี้ได้เหมือนกัน ให้ลองสังเกตว่าตรงกับช่วงเวลาเดียวกันหรือเปล่า ถ้าใช่ละก็ แค่ลองออกกำลังกายให้สม่ำเสมอมากขึ้นเท่านั้น